ขอแสดงความยินดี นายกันตพงศ์ รังษีสว่าง

ขอแสดงความยินดี นายกันตพงศ์ รังษีสว่าง
ในโอกาสที่ได้รับพระบรมราชโองการ
โปรดเกล้าโปรดกระหม่อม แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง
ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568
———————————————
📱 โทร 053-602689 📠 Fax : 053602690
✉️ E-mail : chiangrai.datip@m-society.go.th
———————————————————————

Share:



วิเคราะห์สามองค์ประกอบหลักของการค้ามนุษย์ อาชญากรรมข้ามชาติ

การค้ามนุษย์ถือเป็นอาชญากรรมข้ามชาติที่ร้ายแรงที่สุดในปัจจุบัน ด้วยมูลค่าตลาดโลกที่ประเมินไว้กว่า 150,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี และส่งผลกระทบต่อผู้คนมากกว่า 50 ล้านคนทั่วโลก สำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) ได้จำแนกการค้ามนุษย์ออกเป็นสามองค์ประกอบสำคัญที่ต้องครบถ้วนจึงจะถือว่าเป็นอาชญากรรมประเภทนี้


องค์ประกอบแรกคือ “การกระทำ” 👉 ซึ่งประกอบด้วยกระบวนการคัดเลือก จัดหา ขนส่ง โอน และรับบุคคล การกระทำเหล่านี้มักเริ่มต้นจากการเข้าถึงกลุ่มเปราะบางในสังคม โดยใช้คำสัญญาเกี่ยวกับโอกาสในการทำงาน การศึกษา หรือชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น กระบวนการเคลื่อนย้ายที่ตามมาไม่เพียงเป็นการเปลี่ยนแปลงทางภูมิศาสตร์ แต่ยังเป็นการถ่ายโอนอำนาจควบคุมจากเหยื่อไปสู่ผู้กระทำผิด


องค์ประกอบที่สองคือ “วิธีการ” 👉 ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ผู้ค้ามนุษย์ใช้ในการควบคุมเหยื่อ วิธีการเหล่านี้แบ่งออกเป็นสามประเภทหลัก ได้แก่ การใช้ความรุนแรงทางกายและการข่มขู่ การบงการทางจิตวิทยาผ่านการสร้างความรู้สึกผิด การแยกจากสังคม และการควบคุมข้อมูล และการควบคุมทางกฎหมายโดยการยึดเอกสารประจำตัว การสร้างภาระหนี้สิน และการใช้สถานะทางกฎหมายที่ไม่ชัดเจนเป็นเครื่องมือข่มขู่


องค์ประกอบสุดท้ายคือ “วัตถุประสงค์” 👉 ซึ่งหมายถึงการแสวงหาประโยชน์จากเหยื่อในรูปแบบต่างๆ การแสวงหาประโยชน์ทางเพศในอุตสาหกรรมค้าประเวณีเป็นรูปแบบที่เป็นที่รู้จักมากที่สุด แต่การแสวงหาประโยชน์จากแรงงานในภาคอุตสาหกรรม เกษตรกรรม และการบริการมีสัดส่วนที่สูงเช่นกัน รูปแบบอื่นๆ ที่พบได้แก่ การบังคับแต่งงาน การใช้เด็กในกิจกรรมทางทหารหรืออาชญากรรม และการค้าอวัยวะ


การทำความเข้าใจองค์ประกอบทั้งสามนี้มีความสำคัญต่อการพัฒนายุทธศาสตร์การป้องกันและปราบปรามที่มีประสิทธิภาพ ความรู้ดังกล่าวช่วยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถระบุรูปแบบการดำเนินงานของเครือข่ายอาชญากรรม พัฒนาเครื่องมือการสืบสวนสอบสวนที่เหมาะสม และออกแบบมาตรการช่วยเหลือและฟื้นฟูเหยื่ออย่างครอบคลุม


ในบริบทของประเทศไทย การค้ามนุษย์เป็นทั้งปัญหาภายในประเทศและปัญหาข้ามชาติ โดยประเทศไทยมีบทบาทเป็นทั้งประเทศต้นทาง ประเทศปลายทาง และประเทศผ่านทาง การประยุกต์ใช้กรอบการวิเคราะห์สามองค์ประกอบนี้จึงมีความจำเป็นในการกำหนดนโยบายและมาตรการที่เป็นระบบและยั่งยืน
การต่อสู้กับการค้ามนุษย์อย่างมีประสิทธิผลต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างหน่วยงานรัฐ ภาคเอกชน องค์กรสังคมพลเมือง และชุมชนท้องถิ่น การสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับลักษณะและรูปแบบของอาชญากรรมนี้เป็นรากฐานสำคัญในการป้องกันและลดความเสี่ยงต่อการตกเป็นเหยื่อ ขณะเดียวกันการพัฒนาศักยภาพของเจ้าหน้าที่ในการระบุและจัดการกับกรณีการค้ามนุษย์ก็เป็นสิ่งจำเป็นเช่นกัน


การค้ามนุษย์ไม่เพียงเป็นปัญหาด้านความมั่นคงเท่านั้น แต่ยังเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานที่ทุกสังคมมีหน้าที่ต้องยืนหยัดต่อต้าน การทำความเข้าใจองค์ประกอบหลักของอาชญากรรมนี้เป็นก้าวแรกที่สำคัญในการสร้างสังคมที่ปลอดภัยและเคารพในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์สำหรับทุกคน
อย่าลืม..กดติดตามช่อง FreeGen บน YouTube, Facebook, IG, X(Twitter) และ TikTok แชร์ต่อ เพื่อเผยแพร่ความรู้ที่อาจช่วยปกป้องคนที่คุณห่วงใยได้ และร่วมสร้างสังคมที่ปลอดภัยจากปัญหาการค้ามนุษย์


#FreeGen #การค้ามนุษย์ #ภัยออนไลน์ #humantrafficking #stoptrafficking


Share:



🔆 เทคนิคเด็ด ซื้อ-ขายออนไลน์ ไม่ให้โดนหลอก ไม่ตกเป็นเหยื่อค้ามนุษย์

🔆 เทคนิคเด็ด ซื้อ-ขายออนไลน์ ไม่ให้โดนหลอก ไม่ตกเป็นเหยื่อค้ามนุษย์
♻️ ผู้ซื้อ – ตรวจสอบโปรไฟล์ร้านค้า -เช็คความเคลื่อนไหวของเพจ -อ่านรีวิวดูคอมเมนท์ – อย่าหลงเชื่อของราคาถูกเกินจริง
💲 ผู้ขาย -ตรวจสอบตัวตนของผู้ซื้อ -ใช้ช่องทางที่ยืนยันตัวตนได้ -เช็คยอดเงินเข้าให้ชัวร์ -ระบุเงื่อนไขชัดเจนทุกครั้ง
📲 พบเห็นเบาะแสหรือต้องการความช่วยเหลือ : แจ้งได้ที่ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.ยะลา โทร.073-203509 หรือ ศูนย์ช่วยเหลือสังคม สายด่วน 1300 ตลอด 24 ชั่วโมง
✳️ด้วยความปรารถนาดีจาก : กองทุนเพื่อการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่งคงของมนุษย์


Share:



🔆ป้องกันตนเองจากการตกเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์

🔆ป้องกันตนเองจากการตกเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์
1.อย่าหลงเชื่อข้อเสนอที่ดูดีเกินไป
2.ตรวจสอบข้อมูลให้ชัดเจน
3.รู้สิทธิของตนเอง
4.เดินทางอย่างปลอดภัย
5.ระวังข้อมูลส่วนตัวบนโซเชี่ยล
6. รู้ทันสัญญาณอันตราย
7.ขอความช่วยเหลือทันทีหากสงสัย
8.หาความรู้ไว้ป้องกันตนเอง
9.สร้างเครือข่ายความปลอดภัย


📲 พบเห็นเบาะแสหรือต้องการความช่วยเหลือ : แจ้งได้ที่ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.ยะลา โทร.073-203509 

หรือ ศูนย์ช่วยเหลือสังคม สายด่วน 1300 ตลอด 24 ชั่วโมง
✳️ด้วยความปรารถนาดีจาก : กองทุนเพื่อการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่งคงของมนุษย์


Share:



เปิดโปงอาชญากรรมการค้ามนุษย์ 3 รูปแบบในไทย ภัยร้ายที่ใกล้ตัวกว่าที่คิด

เปิดโปงอาชญากรรมการค้ามนุษย์ 3 รูปแบบในไทย ภัยร้ายที่ใกล้ตัวกว่าที่คิด
ปัญหาการค้ามนุษย์ในประเทศไทยยังคงเป็นประเด็นที่น่าวิตกและต้องการความเอาใจใส่อย่างจริงจัง เมื่อพิจารณาจากรูปแบบการกระทำผิดที่หลากหลายและซับซ้อนมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 3 รูปแบบหลักที่ส่งผลกระทบต่อสังคมไทยอย่างรุนแรง ซึ่งแต่ละรูปแบบมีกลยุทธ์และเป้าหมายที่แตกต่างกันออกไป
🚫 การค้าประเวณี: กับดักรายได้หลอกหลวง
รูปแบบแรกที่พบมากที่สุดคือการค้าประเวณี ซึ่งมักใช้ปัจจัยทางเศรษฐกิจเป็นเหยื่อล่อ ผู้กระทำผิดจะเข้าหาเหยื่อ โดยเฉพาะเด็กและสตรีที่อยู่ในสภาพยากจน ด้วยการสร้างภาพลวงตาเกี่ยวกับรายได้จำนวนมากและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
เมื่อเหยื่อตกหลุมพรางแล้ว ผู้กระทำผิดจะใช้วิธีการกักขัง ยึดเอกสารสำคัญ และสร้างภาระหนี้สินที่ไม่อาจชำระได้ เพื่อบังคับให้ขายบริการทางเพศ สถานที่ที่มักเกิดเหตุได้แก่ สถานบริการต่างๆ อาบอบนวด คาราโอเกะ และปัจจุบันได้ขยายไปสู่การค้าประเวณีออนไลน์ผ่านโซเชียลมีเดียที่ยากต่อการตรวจสอบ
🚫 การบังคับใช้แรงงาน: แรงงานทาสยุคใหม่
รูปแบบที่สองคือการบังคับใช้แรงงานหรือที่เรียกว่า “แรงงานทาส” ซึ่งพบได้บ่อยในภาคการประมง ภาคเกษตรกรรม และโรงงานอุตสาหกรรมที่ต้องการแรงงานจำนวนมาก
เหยื่อส่วนใหญ่เป็นแรงงานข้ามชาติที่เข้ามาทำงานอย่างผิดกฎหมาย หรือถูกหลอกว่าจะได้งานและรายได้ที่ดี แต่เมื่อมาถึงกลับถูกบังคับให้ทำงานหนักเกินเวลา ไม่ได้รับค่าจ้างตามที่ตกลง ถูกยึดหนังสือเดินทาง และถูกข่มขู่ทำร้ายร่างกายหากไม่ยอมปฏิบัติตาม
🚫 การนำคนมาขอทาน: ธุรกิจผิดกฎหมายบนความสงสาร
รูปแบบที่สามคือการนำคนมาขอทาน โดยเฉพาะการนำเด็ก ผู้สูงอายุ หรือผู้พิการมาเป็นเครื่องมือหาเงิน ขบวนการเหล่านี้มักลักพาตัวหรือหลอกลวงเหยื่อมาจากพื้นที่ห่างไกลหรือจากประเทศเพื่อนบ้าน
เหยื่อจะถูกบังคับให้นั่งขอทานตามสะพานลอย ตลาด หรือแหล่งชุมชน โดยรายได้ทั้งหมดจะถูกยึดไป เหยื่อมักถูกทำร้ายร่างกายให้อยู่ในสภาพน่าสงสารเพื่อเรียกความเห็นใจ และถูกควบคุมอย่างเข้มงวดจนไม่สามารถขอความช่วยเหลือได้
เรียกร้องความร่วมมือจากสังคม
การตระหนักรู้และเข้าใจถึงรูปแบบต่างๆ ของการค้ามนุษย์เป็นก้าวแรกที่สำคัญในการป้องกันและแก้ไขปัญหา หากประชาชนพบเห็นบุคคลที่อาจตกเป็นเหยื่อหรือมีพฤติกรรมน่าสงสัย สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่สายด่วนศูนย์ช่วยเหลือสังคม 1300 หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
การร่วมมือกันของทุกภาคส่วนจะเป็นกุญแจสำคัญในการหยุดยั้งวงจรอาชญากรรมนี้ และช่วยเหลือผู้ที่ตกเป็นเหยื่อให้กลับคืนสู่อิสรภาพได้อย่างแท้จริง
อย่าลืม..กดติดตามช่อง FreeGen บน YouTube, Facebook, IG, X(Twitter) และ TikTok แชร์ต่อ เพื่อเผยแพร่ความรู้ที่อาจช่วยปกป้องคนที่คุณห่วงใยได้ และร่วมสร้างสังคมที่ปลอดภัยจากปัญหาการค้ามนุษย์

Share:



การประชุมทวิภาคี ไทย – เมียนมา ครั้งที่ 32 ด้านการบริหารจัดการรายกรณี การส่งกลับและคืนสู่สังคมผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์

เวลา 08.00 – 17.00 น. นางสาวพรนภา สำรีราษฎร์ ผู้อำนวยการสถานคุ้มครองสวัสดิภาพผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ จังหวัดเชียงราย และ นางสาวมยุเรศ หัวนา หัวหน้ากลุ่มคุ้มครองสวัสดิภาพ เข้าร่วมการประชุมทวิภาคี ไทย – เมียนมา ครั้งที่ 32 ด้านการบริหารจัดการรายกรณี การส่งกลับและคืนสู่สังคมผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ (The 32nd Case Management Meeting: CMM) ระหว่างวันที่ 14 – 15 สิงหาคม 2568 ณ โรงแรมเดอะ เบอร์เคลีย์ ประตูน้ำ กรุงเทพมหานคร โดยมี นางจตุพร โรจนพานิช รองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ปฎิบัติหน้าที่หัวหน้าคณะฝ่ายไทย และ Dr. Min Thien อธิบดีกรมฟื้นฟูเยียวยา กระทรวงสวัสดิการสังคมการบรรเทาทุกข์ และการตั้งถิ่นฐานใหม่ เป็นหัวหน้าคณะฝ่ายเมียนมา การประชุมครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานด้านการให้การคุ้มครองช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ทั้งสองประเทศ ได้รายงานผลการดำเนินงานการช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ และกำหนดข้อตกลงการดำเนินงานร่วมกัน (Action Point) เพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินงานระหว่างประเทศ

———————————————
📱 โทร 053-602689 📠 Fax : 053602690
✉️ E-mail : chiangrai.datip@m-society.go.th
———————————————————————

Share:



“ทำไมผู้ค้ามนุษย์ถึงชื่นชอบโซเชียลมีเดีย?” การปฏิวัติที่เปลี่ยนแปลงวิธีการของอาชญากร

แพลตฟอร์มดิจิทัลได้เปลี่ยนแปลงวิธีการของผู้ค้ามนุษย์อย่างสิ้นเชิง จากการที่ต้องออกหาเหยื่อด้วยตนเองในอดีต กลายเป็นการเข้าถึงเป้าหมายทั่วโลกจากที่ใดก็ได้

ข้อได้เปรียบของโซเชียลมีเดียสำหรับผู้กระทำผิด คือ ต้นทุนที่ลดลงอย่างมาก ไม่ต้องใช้นายหน้าหรือเครือข่ายในพื้นที่ แค่มีอุปกรณ์และอินเทอร์เน็ตก็สามารถดำเนินการได้

 

การเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวที่ผู้ใช้เผยแพร่เอง ทำให้ทราบจุดอ่อนและความต้องการของเป้าหมาย เช่น ปัญหาทางการเงิน ความต้องการหางาน หรือความเหงา

ความสามารถในการปกปิดตัวตน ใช้ข้อมูลปลอม หลายบัญชี และเครื่องมือซ่อนตำแหน่ง ทำให้การติดตามและจับกุมเป็นเรื่องยาก

ปริมาณการสื่อสารมหาศาลทำให้การตรวจสอบของเจ้าหน้าที่เป็นไปอย่างยากลำบาก อาชญากรรมจึงสามารถซ่อนตัวในกองข้อมูลขนาดใหญ่

การเข้าถึงเป้าหมายได้ไม่จำกัด ไม่มีข้อจำกัดทางภูมิศาสตร์ สามารถติดต่อผู้คนจากทุกประเทศในเวลาเดียวกัน
การป้องกันเลยต้องปรับเปลี่ยนจากการสร้างความตระหนักรู้ในชุมชนท้องถิ่น ไปสู่การส่งเสริมความรู้เท่าทันสื่อดิจิทัลและการเฝ้าระวังภัยออนไลน์

แนวทางรับมือ การตั้งค่าความเป็นส่วนตัวอย่างเหมาะสม การไม่เผยแพร่ข้อมูลส่วนตัวที่อ่อนไหว การรายงานกิจกรรมที่น่าสงสัย และการให้ความรู้แก่คนรอบข้าง

โซเชียลมีเดียเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ แต่ต้องใช้อย่างระมัดระวังและมีความรู้เท่าทันภัยที่อาจเกิดขึ้น

 

#FreeGen #การค้ามนุษย์ #ภัยออนไลน์ #ปกป้องตัวเอง #กฎหมายไทย #humantrafficking #stoptrafficking
#ความปลอดภัยดิจิทัล #โซเชียลมีเดีย #ป้องกันการค้ามนุษย์


Share:



UNODC เปิดเผยรายงานสะเทือนใจ เด็กถูกค้า 1 ใน 3 ของเหยื่อทั้งหมด ขณะที่อินเทอร์เน็ตกลายเป็นเครื่องมือใหม่ของขบวนการอาชญากรรม

สำนักงานสหประชาชาติด้านยาเสพติดและอาชญากรรม (UNODC) เปิดเผยรายงานสะเทือนใจ เด็กถูกค้า 1 ใน 3 ของเหยื่อทั้งหมด ขณะที่อินเทอร์เน็ตกลายเป็นเครื่องมือใหม่ของขบวนการอาชญากรรม
เวียนนา, ออสเตรีย – สำนักงานสหประชาชาติด้านยาเสพติดและอาชญากรรม (UNODC) เผยข้อมูลเตือนภัยว่า ในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา สัดส่วนของเด็กในกลุ่มเหยื่อการค้ามนุษย์ที่ตรวจพบเพิ่มขึ้นสามเท่า โดยปัจจุบันเด็กคิดเป็นประมาณหนึ่งในสามของเหยื่อการค้ามนุษย์ทั้งหมด

เกือบ 20,000 เด็กตกเป็นเหยื่อในปีเดียว
ข้อมูลล่าสุดปี 2020 พบว่ามีเด็กเกือบ 20,000 คนทั่วโลกถูกระบุว่าเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์ แต่ UNODC เตือนว่าตัวเลขจริงอาจสูงขึ้นอย่างมากเนื่องจากความยากลำบากในการตรวจจับและรายงานคคดีเหล่านี้
การค้าเด็กถือเป็นอาชญากรรมร้ายแรงและการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรง โดยไม่คำนึงถึงว่าเด็กจะแสดงท่าทีที่ดูเหมือน “ยินยอม” หรือไม่ โดยเฉพาะเมื่อมีการใช้กำลัง การหลอกลวง การบีบบังคับ หรือการใช้อำนาจในทางที่ผิด

เด็กหญิงเสี่ยงค้าประเวณี เด็กชายถูกบังคับใช้แรงงาน
รายงานชี้ให้เห็นรูปแบบที่ชัดเจนว่า เด็กหญิงส่วนใหญ่ถูกค้าเพื่อการแสวงหาประโยชน์ทางเพศ ขณะที่เด็กชายมักถูกค้าเพื่อการบังคับใช้แรงงาน
ที่น่าวิตกยิ่งขึ้นคือ บางครั้งเหยื่ออาจถูกแสวงหาประโยชน์หลายรูปแบบพร้อมกัน เช่น เด็กที่ถูกบังคับให้ขอทานบนถนนอาจถูกทำร้ายทางเพศในเวลากลางคืนด้วย

ภาพรวมโลก: แอฟริกาเหยื่อมากสุด เอเชียใต้แต่งงานวัยเด็ก
การค้าเด็กเกิดขึ้นทั่วโลกแต่มีลักษณะแตกต่างกันตามภูมิภาค ในแอฟริกาเหนือและแอฟริกาใต้สะฮารา เด็กคิดเป็นส่วนใหญ่ของเหยื่อการค้ามนุษย์ โดยการบังคับใช้แรงงานพบได้บ่อยที่สุดในแอฟริกาใต้สะฮารา
ในอเมริกากลางและแคริบเบียน เหยื่อส่วนใหญ่เป็นเด็กหญิงวัยรุ่นที่ถูกค้าเพื่อแสวงหาประโยชน์ทางเพศ ส่วนในเอเชียใต้ เกือบครึ่งหนึ่งของเหยื่อเป็นเด็กที่ถูกแสวงหาประโยชน์ด้านแรงงานหรือถูกบังคับแต่งงาน

ความยากจน-เทคโนโลยี ปัจจัยเสี่ยงคู่ใหม่
UNODC ระบุว่า การค้าเด็กเจริญเติบโตในสภาพแวดล้อมที่มีปัญหาครอบครัว ขาดการดูแลจากผู้ปกครอง ความยากจน ความไม่เท่าเทียม และการคุ้มครองเด็กที่ไม่เพียงพอ ผู้ค้ามนุษย์มักเล็งไปที่เด็กจากครัวเรือนที่ยากจนมากหรือถูกทอดทิ้ง
สิ่งที่น่าเป็นห่วงในยุคดิจิทัลคือ ผู้ค้ามนุษย์ปัจจุบันใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ โซเชียลมีเดีย และดาร์กเว็บเพื่อเข้าถึง แสวงหาประโยชน์ และควบคุมเด็ก โดยใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับ
ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า การที่เด็กใช้อินเทอร์เน็ตและโซเชียลมีเดียโดยไม่มีการกำกับดูแลที่เหมาะสม ยิ่งทำให้พวกเขาเสี่ยงต่อการตกเป็นเหยื่อมากขึ้น

ผลกระทบรุนแรงกว่าผู้ใหญ่ 2 เท่า
ผลกระทบจากการค้าเด็กมีความรุนแรงและยาวนาน อาชญากรรมนี้ส่งผลกระทบที่รุนแรงต่อพัฒนาการทางกายภาพ สติปัญญา และสังคม-อารมณ์ของเด็ก เหยื่อมักประสบปัญหาสุขภาพตลอดชีวิต ภาวะบาดแผลทางจิตใจรุนแรง ความวิตกกังวล ภาวะซึมเศร้า และปัญหาในการปรับตัวเข้าสังคม
ที่น่าตกใจคือ เด็กมีความเสี่ยงที่จะได้รับความรุนแรงอย่างรุนแรงจากผู้ค้ามนุษย์เกือบสองเท่าเมื่อเทียบกับเหยื่อผู้ใหญ่ โดยเด็กหญิงมีอัตราเสี่ยงที่สูงกว่า

ไม่เพียงทำลายเด็ก แต่ทำลายสังคม
การค้าเด็กไม่เพียงทำลายชีวิตของเหยื่อเท่านั้น แต่ยังบ่อนทำลายโครงสร้างสังคมที่ดีและทำให้วงจรของความยากจนและการแสวงหาประโยชน์คงอยู่ มันทำลายวัยเด็ก ขัดขวางการศึกษา และเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาชุมชน

เป้าหมาย 2025: ยุติการค้าเด็กให้ได้
UNODC ไม่ได้นิ่งดูดาย องค์กรดำเนินการสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับปัญหาระดับโลกนี้และเร่งรัดการดำเนินการเพื่อยุติการค้าเด็ก ผ่านการวิจัย การให้การสนับสนุนทางเทคนิคแก่รัฐต่างๆ และการประสานงานระหว่างหน่วยงาน
กลุ่มประสานงานระหว่างหน่วยงานต่อต้านการค้ามนุษย์ (ICAT) ซึ่งประกอบด้วยองค์การระหว่างประเทศสำคัญๆ ได้เรียกร้องให้มีการเร่งรัดดำเนินการป้องกันและยุติการค้าเด็กภายในปี 2025

“การแก้ไขปัญหาการค้าเด็กมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการบรรลุเสถียรภาพทางสังคมและเศรษฐกิจในวงกว้าง” โฆษกขององค์กรกล่าวสรุป พร้อมเรียกร้องความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการต่อสู้กับอาชญากรรมที่ทำลายอนาคตของเด็กๆ ทั่วโลก

ข้อมูลจาก: สำนักงานสหประชาชาติด้านยาเสพติดและอาชญากรรม (UNODC) รายงานการค้าเด็กระดับโลก กรกฎาคม 2024

อย่าลืม..กดติดตามช่อง FreeGen บน YouTube, Facebook, IG, X(Twitter) และ TikTok แชร์ต่อ เพื่อเผยแพร่ความรู้ที่อาจช่วยปกป้องคนที่คุณห่วงใยได้ และร่วมสร้างสังคมที่ปลอดภัยจากปัญหาการค้ามนุษย์

#FreeGen #การค้ามนุษย์ #ภัยออนไลน์ #ปกป้องตัวเอง #กฎหมายไทย #humantrafficking #stoptrafficking 


Share:



“NRM” กลไกส่งต่อระดับชาติ ยกระดับคุ้มครองเหยื่อค้ามนุษย์ตามมาตรฐานสากล

‘ประเทศไทยได้ก้าวไปอีกขั้นในการต่อต้านการค้ามนุษย์และการบังคับใช้แรงงาน ด้วยการประกาศใช้ “กลไกการส่งต่อระดับชาติ” (National Referral Mechanism – NRM) อย่างเป็นทางการ กลไกนี้เป็นกรอบความร่วมมือระหว่างภาคส่วนต่าง ๆ เพื่อช่วย เหลือ คุ้มครอง คัดกรอง คัดแยก และส่งต่อผู้เสียหายจากสถานการณ์การค้ามนุษย์และการบังคับใช้แรงงาน โดยได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์แห่งชาติเมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2565 NRM ได้รับการพัฒนาขึ้นบนพื้นฐานของกรอบการปฏิบัติงานเพื่อ

NRM กลไกเพื่อทุกคนที่ตกเป็นเหยื่อ กลไกการส่งต่อระดับชาติ (NRM) ใช้สำหรับ บุคคลที่มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าจะเป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ ผู้เสียหายจากการบังคับใช้แรงงานหรือบริการ ซึ่งรวมถึงผู้ใหญ่และเด็ก ทั้งคนไทยและคนต่างชาติ การทำงานของกลไกนี้ยึดมั่นในหลักการสำคัญเพื่อปกป้องผู้เสียหายอย่างรอบด้าน
⭕️ เคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ของผู้เสียหาย
⭕️ ผู้เสียหาย ไม่ถูกเลือกปฏิบัติ จากเจ้าหน้าที่
⭕️ การปฏิบัติงานมี ผู้เสียหายเป็นศูนย์กลาง และยึดประโยชน์สูงสุดของผู้เสียหายเป็นสำคัญ
⭕️ การคุ้มครองและช่วยเหลือ คำนึงถึงบาดแผลทางจิตใจ ของผู้เสียหาย และไม่กระทำซ้ำ
⭕️ ให้ความสำคัญกับ ความละเอียดอ่อนทางเพศ
⭕️ รักษาความลับ ของผู้เสียหาย

4 ขั้นตอนสำคัญในการช่วยเหลือและคุ้มครอง กลไก NRM ประกอบด้วย 4 ขั้นตอนหลักที่ทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบ สิ่งสำคัญคือ ในทุกขั้นตอน เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ต้องได้รับความยินยอมจากผู้เสียหายเสียก่อน และจัดให้ผู้เสียหายมีระยะเวลาฟื้นฟูไตร่ตรองเพื่อทบทวนเรื่องราว รวมถึงการมีส่วนร่วมในกระบวนการคัดแยกและคุ้มครอง
ขั้นตอนการรับแจ้ง: หน่วยงานรับแจ้งเหตุไม่ว่าจะเป็นภาครัฐหรือภาคประชาสังคม สามารถรับแจ้งเหตุที่น่าสงสัยว่าจะเป็นการค้ามนุษย์หรือการบังคับใช้แรงงานได้ หน่วยงานเหล่านี้มีหน้าที่รวบรวมข้อมูลเบื้องต้นและส่งต่อข้อมูลให้หน่วยงานด่านหน้าเพื่อดำเนินการคัดกรอง หรือพิจารณาคัดกรองเองหากเป็นหน่วยงานด่านหน้าอยู่แล้ว
ขั้นตอนการคัดกรอง: มีวัตถุประสงค์เพื่อสืบหาข้อมูลและตัวชี้วัดเบื้องต้นเกี่ยวกับสถานการณ์การค้ามนุษย์และการบังคับใช้แรงงาน เพื่อนำไปประกอบการพิจารณาสถานะของบุคคลที่ได้รับส่งต่อมา ในขั้นตอนนี้ ควรมีอย่างน้อย 1 หน่วยงานที่มีภารกิจเกี่ยวข้องเข้าร่วม เช่น เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองสำหรับกรณีผู้อพยพย้ายถิ่น หรือ สร.ช. สำหรับผู้ประสบเหตุทางทะเล หากหน่วยงานด่านหน้าเชื่อว่าบุคคลนั้นน่าจะเป็นผู้เสียหาย จะส่งต่อรายงานสถานการณ์เพื่อการคัดแยกและพิจารณาสถานะผู้เสียหายต่อไป
ขั้นตอนการคัดแยก: เป็นการคัดแยกและพิจารณาสถานะผู้เสียหายอย่างเป็นทางการ โดยหน่วยงานผู้มีหน้าที่ในการคัดแยกในทีมสหวิชาชีพ การพิจารณาขึ้นอยู่กับข้อมูลที่ได้รับจากการสัมภาษณ์และข้อมูลอื่น ๆ ที่ได้รับมาในช่วง ระยะเวลาฟื้นฟูไตร่ตรอง 15 วัน ซึ่งสามารถขยายออกไปได้เป็นรายกรณี กระบวนการนี้สามารถดำเนินการได้ทั้งในศูนย์บูรณาการการคัดแยกผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ (โดยเฉพาะกรณีชาวต่างชาติที่ไม่มีสิทธิ์อยู่ในประเทศ) หรือในสำนักงานของหน่วยงานผู้มีหน้าที่คัดแยก โดยมีกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) และกระทรวงแรงงาน (รง.) ปฏิบัติงานร่วมกัน
ขั้นตอนการคุ้มครอง: ขั้นตอนสุดท้ายนี้จะมุ่งเน้นไปที่การให้ความคุ้มครองแก่บุคคลที่ได้รับการพิจารณาคัดแยกแล้วว่าเป็นผู้เสียหาย กระทรวง พม. จะเป็นหน่วยงานหลัก ในการจัดให้มีความคุ้มครองที่เหมาะสมกับความต้องการและความยินยอมของผู้เสียหายแต่ละคน เช่น การจัดหาสถานคุ้มครอง การให้บริการบำบัดฟื้นฟูเยียวยา การให้ความช่วยเหลือทางกฎหมาย การส่งกลับ และการกลับคืนสู่สังคม บริการข้างต้นอยู่ภายใต้กรอบ ระยะเวลาฟื้นฟูไตร่ตรอง 30 วัน ซึ่งสามารถขยายระยะเวลาออกไปได้ตามความต้องการและความยินยอมของผู้เสียหาย ผู้เสียหายจะได้รับคำปรึกษาเพื่อช่วยให้พวกเขาสามารถตัดสินใจได้ว่าจะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมทางอาญาหรือไม่ หากผู้เสียหายไม่ประสงค์จะรับความช่วยเหลือ สถานคุ้มครองสวัสดิภาพผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ (สคม.) จะรายงานต่อกองต่อต้านการค้ามนุษย์เพื่อประสานส่งกลับภูมิลำเนา แต่หากผู้เสียหายประสงค์จะเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย สถานคุ้มครองจะประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดำเนินส่วนของการสืบสวนสอบสวนและให้ความคุ้มครองผู้เสียหาย โดยในกรณีที่ผู้เสียหายเป็นเด็ก กระบวนการต่าง ๆ จะเป็นไปตามหลักการในพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 และอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก

ตอกย้ำพันธกรณีสากลเพื่อการคุ้มครองที่ยั่งยืน กลไก NRM ถือเป็นการพัฒนาที่รัฐบาลไทยให้ความสำคัญอย่างยิ่ง โดยเป็นผลจากการทำงานร่วมมือร่วมใจกันระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และองค์กรระหว่างประเทศ กลไกนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อ สอดรับกับพันธกรณีที่ประเทศไทยจะต้องปฏิบัติตามพันธสัญญาต่าง ๆ ที่ได้ลงนามไว้กับองค์กรระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งองค์การสหประชาชาติ ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ รวมทั้งการบังคับใช้แรงงาน มีวัตถุประสงค์หลักในการมุ่งเน้นไปที่การให้ความคุ้มครองแก่ผู้เสียหายเป็นอันดับแรก สร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ และนำไปสู่ประสิทธิภาพในการดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด เพื่อให้ผู้เสียหายได้รับการคุ้มครองและมีการพัฒนาในการคุ้มครองช่วยเหลืออย่าง มั่นคงและยั่งยืน

อย่าลืม..กดติดตามช่อง FreeGen บน YouTube, Facebook, IG, X(Twitter) และ TikTok แชร์ต่อ เพื่อเผยแพร่ความรู้ที่อาจช่วยปกป้องคนที่คุณห่วงใยได้ และร่วมสร้างสังคมที่ปลอดภัยจากปัญหาการค้ามนุษย์

#FreeGen #การค้ามนุษย์ #ภัยออนไลน์ #ปกป้องตัวเอง #กฎหมายไทย #humantrafficking #stoptrafficking 

ดูน้อยลง

Share:



🗨️ กองต่อต้านการค้ามนุษย์ ขอเสนอเกร็ดความรู้ “รู้หรือไม่ เกี่ยวกับการค้ามนุษย์❓”

1. การแสวงหาประโยชน์จากการค้าประเวณี
⁉️ ผู้หญิงและเด็กหญิง (ซึ่งอาจรวมถึงเด็กชาย) หลายร้อยคนถูกหลอกให้ขายบริการ ด้วยคำสัญญาเรื่องรายได้ดี แต่สุดท้ายกลับกลายเป็นเหยื่อของการค้ามนุษย์
 
2. การผลิตหรือเผยแพร่วัตถุุหรือสื่อลามก
⁉️ ผู้หญิงจำนวนมาก โดยเฉพาะวัยรุ่นถูกล่อลวงเข้าวงการผลิตสื่อลามก โดยการหลอกล่อว่าเป็นงานถ่ายแบบ หารายได้ง่าย
 
3. การแสวงหาประโยชน์ทางเพศรูปแบบอื่น
⁉️ การชักชวนเด็กให้ไป “เอนเตอร์เทน” หรือเข้าสถานบันเทิง แม้จะไม่มีการบังคับ แต่หากอายุต่ำกว่า 18 ปี ก็เข้าข่ายการค้ามนุษย์
 
4. การเอาคนลงเป็นทาสหรือให้มีฐานะคล้ายทาส
⁉️ ทาสไม่ได้มีแค่ในอดีต ทุกวันนี้ ยังมีหลายคนถูกบังคับทำงาน ถูกล่อลวง และถูกควบคุม นี่คือ “ทาสยุคใหม่”
 
5. การนำคนมาเป็นขอทาน
⁉️ เด็กหลายพันคนถูกบังคับให้ขอทาน รายได้ทุกบาทไม่ถึงมือพวกเขา แต่กลับตกอยู่ในมือของขบวนการค้ามนุษย์
 
6. การตัดอวัยวะเพื่อการค้า
⁉️ การค้ามนุษย์เพื่อเอาอวัยวะยังคงเกิดขึ้นจริง ผู้เสียหายมักถูกหลอกให้ขายอวัยวะ ด้วยข้อมูลเท็จหรือทำการผ่าตัด โดยไม่ได้รับความยินยอม ผิดทั้งกฎหมายและจริยธรรมอย่างรุนแรง
 
7. การบังคับใช้แรงงานหรือบริการ
⁉️ มีแรงงานหญิงต่างชาติจำนวนมาก ที่ถูกหลอกให้ทำงานแม่บ้าน ถูกยึดพาสปอร์ต และถูกบังคับ ให้ทำงานหนักโดยไม่ได้รับค่าจ้าง ซึ่งยังมีการบังคับให้ทำงานในโรงงาน แคมป์ก่อสร้าง ฟาร์มอีกด้วย
.
📌 ติดตามเราได้ทุกช่องทาง
🌐 Facebook : กองต่อต้านการค้ามนุษย์ สป.พม.
🌐 IG : @datip_msdhs
🌐 Tiktok : @.datip
🌐 Twitter (X) : @datip_msdhs
🌐 Application : Protect-U ดาวน์โหลดติดตัวไว้ อุ่นใจ…ทุกสถานการณ์

Share:



Social media & sharing icons powered by UltimatelySocial