“ทำไมผู้ค้ามนุษย์ถึงชื่นชอบโซเชียลมีเดีย?” การปฏิวัติที่เปลี่ยนแปลงวิธีการของอาชญากร

แพลตฟอร์มดิจิทัลได้เปลี่ยนแปลงวิธีการของผู้ค้ามนุษย์อย่างสิ้นเชิง จากการที่ต้องออกหาเหยื่อด้วยตนเองในอดีต กลายเป็นการเข้าถึงเป้าหมายทั่วโลกจากที่ใดก็ได้

ข้อได้เปรียบของโซเชียลมีเดียสำหรับผู้กระทำผิด คือ ต้นทุนที่ลดลงอย่างมาก ไม่ต้องใช้นายหน้าหรือเครือข่ายในพื้นที่ แค่มีอุปกรณ์และอินเทอร์เน็ตก็สามารถดำเนินการได้

 

การเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวที่ผู้ใช้เผยแพร่เอง ทำให้ทราบจุดอ่อนและความต้องการของเป้าหมาย เช่น ปัญหาทางการเงิน ความต้องการหางาน หรือความเหงา

ความสามารถในการปกปิดตัวตน ใช้ข้อมูลปลอม หลายบัญชี และเครื่องมือซ่อนตำแหน่ง ทำให้การติดตามและจับกุมเป็นเรื่องยาก

ปริมาณการสื่อสารมหาศาลทำให้การตรวจสอบของเจ้าหน้าที่เป็นไปอย่างยากลำบาก อาชญากรรมจึงสามารถซ่อนตัวในกองข้อมูลขนาดใหญ่

การเข้าถึงเป้าหมายได้ไม่จำกัด ไม่มีข้อจำกัดทางภูมิศาสตร์ สามารถติดต่อผู้คนจากทุกประเทศในเวลาเดียวกัน
การป้องกันเลยต้องปรับเปลี่ยนจากการสร้างความตระหนักรู้ในชุมชนท้องถิ่น ไปสู่การส่งเสริมความรู้เท่าทันสื่อดิจิทัลและการเฝ้าระวังภัยออนไลน์

แนวทางรับมือ การตั้งค่าความเป็นส่วนตัวอย่างเหมาะสม การไม่เผยแพร่ข้อมูลส่วนตัวที่อ่อนไหว การรายงานกิจกรรมที่น่าสงสัย และการให้ความรู้แก่คนรอบข้าง

โซเชียลมีเดียเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ แต่ต้องใช้อย่างระมัดระวังและมีความรู้เท่าทันภัยที่อาจเกิดขึ้น

 

#FreeGen #การค้ามนุษย์ #ภัยออนไลน์ #ปกป้องตัวเอง #กฎหมายไทย #humantrafficking #stoptrafficking
#ความปลอดภัยดิจิทัล #โซเชียลมีเดีย #ป้องกันการค้ามนุษย์


Share:



UNODC เปิดเผยรายงานสะเทือนใจ เด็กถูกค้า 1 ใน 3 ของเหยื่อทั้งหมด ขณะที่อินเทอร์เน็ตกลายเป็นเครื่องมือใหม่ของขบวนการอาชญากรรม

สำนักงานสหประชาชาติด้านยาเสพติดและอาชญากรรม (UNODC) เปิดเผยรายงานสะเทือนใจ เด็กถูกค้า 1 ใน 3 ของเหยื่อทั้งหมด ขณะที่อินเทอร์เน็ตกลายเป็นเครื่องมือใหม่ของขบวนการอาชญากรรม
เวียนนา, ออสเตรีย – สำนักงานสหประชาชาติด้านยาเสพติดและอาชญากรรม (UNODC) เผยข้อมูลเตือนภัยว่า ในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา สัดส่วนของเด็กในกลุ่มเหยื่อการค้ามนุษย์ที่ตรวจพบเพิ่มขึ้นสามเท่า โดยปัจจุบันเด็กคิดเป็นประมาณหนึ่งในสามของเหยื่อการค้ามนุษย์ทั้งหมด

เกือบ 20,000 เด็กตกเป็นเหยื่อในปีเดียว
ข้อมูลล่าสุดปี 2020 พบว่ามีเด็กเกือบ 20,000 คนทั่วโลกถูกระบุว่าเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์ แต่ UNODC เตือนว่าตัวเลขจริงอาจสูงขึ้นอย่างมากเนื่องจากความยากลำบากในการตรวจจับและรายงานคคดีเหล่านี้
การค้าเด็กถือเป็นอาชญากรรมร้ายแรงและการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรง โดยไม่คำนึงถึงว่าเด็กจะแสดงท่าทีที่ดูเหมือน “ยินยอม” หรือไม่ โดยเฉพาะเมื่อมีการใช้กำลัง การหลอกลวง การบีบบังคับ หรือการใช้อำนาจในทางที่ผิด

เด็กหญิงเสี่ยงค้าประเวณี เด็กชายถูกบังคับใช้แรงงาน
รายงานชี้ให้เห็นรูปแบบที่ชัดเจนว่า เด็กหญิงส่วนใหญ่ถูกค้าเพื่อการแสวงหาประโยชน์ทางเพศ ขณะที่เด็กชายมักถูกค้าเพื่อการบังคับใช้แรงงาน
ที่น่าวิตกยิ่งขึ้นคือ บางครั้งเหยื่ออาจถูกแสวงหาประโยชน์หลายรูปแบบพร้อมกัน เช่น เด็กที่ถูกบังคับให้ขอทานบนถนนอาจถูกทำร้ายทางเพศในเวลากลางคืนด้วย

ภาพรวมโลก: แอฟริกาเหยื่อมากสุด เอเชียใต้แต่งงานวัยเด็ก
การค้าเด็กเกิดขึ้นทั่วโลกแต่มีลักษณะแตกต่างกันตามภูมิภาค ในแอฟริกาเหนือและแอฟริกาใต้สะฮารา เด็กคิดเป็นส่วนใหญ่ของเหยื่อการค้ามนุษย์ โดยการบังคับใช้แรงงานพบได้บ่อยที่สุดในแอฟริกาใต้สะฮารา
ในอเมริกากลางและแคริบเบียน เหยื่อส่วนใหญ่เป็นเด็กหญิงวัยรุ่นที่ถูกค้าเพื่อแสวงหาประโยชน์ทางเพศ ส่วนในเอเชียใต้ เกือบครึ่งหนึ่งของเหยื่อเป็นเด็กที่ถูกแสวงหาประโยชน์ด้านแรงงานหรือถูกบังคับแต่งงาน

ความยากจน-เทคโนโลยี ปัจจัยเสี่ยงคู่ใหม่
UNODC ระบุว่า การค้าเด็กเจริญเติบโตในสภาพแวดล้อมที่มีปัญหาครอบครัว ขาดการดูแลจากผู้ปกครอง ความยากจน ความไม่เท่าเทียม และการคุ้มครองเด็กที่ไม่เพียงพอ ผู้ค้ามนุษย์มักเล็งไปที่เด็กจากครัวเรือนที่ยากจนมากหรือถูกทอดทิ้ง
สิ่งที่น่าเป็นห่วงในยุคดิจิทัลคือ ผู้ค้ามนุษย์ปัจจุบันใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ โซเชียลมีเดีย และดาร์กเว็บเพื่อเข้าถึง แสวงหาประโยชน์ และควบคุมเด็ก โดยใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับ
ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า การที่เด็กใช้อินเทอร์เน็ตและโซเชียลมีเดียโดยไม่มีการกำกับดูแลที่เหมาะสม ยิ่งทำให้พวกเขาเสี่ยงต่อการตกเป็นเหยื่อมากขึ้น

ผลกระทบรุนแรงกว่าผู้ใหญ่ 2 เท่า
ผลกระทบจากการค้าเด็กมีความรุนแรงและยาวนาน อาชญากรรมนี้ส่งผลกระทบที่รุนแรงต่อพัฒนาการทางกายภาพ สติปัญญา และสังคม-อารมณ์ของเด็ก เหยื่อมักประสบปัญหาสุขภาพตลอดชีวิต ภาวะบาดแผลทางจิตใจรุนแรง ความวิตกกังวล ภาวะซึมเศร้า และปัญหาในการปรับตัวเข้าสังคม
ที่น่าตกใจคือ เด็กมีความเสี่ยงที่จะได้รับความรุนแรงอย่างรุนแรงจากผู้ค้ามนุษย์เกือบสองเท่าเมื่อเทียบกับเหยื่อผู้ใหญ่ โดยเด็กหญิงมีอัตราเสี่ยงที่สูงกว่า

ไม่เพียงทำลายเด็ก แต่ทำลายสังคม
การค้าเด็กไม่เพียงทำลายชีวิตของเหยื่อเท่านั้น แต่ยังบ่อนทำลายโครงสร้างสังคมที่ดีและทำให้วงจรของความยากจนและการแสวงหาประโยชน์คงอยู่ มันทำลายวัยเด็ก ขัดขวางการศึกษา และเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาชุมชน

เป้าหมาย 2025: ยุติการค้าเด็กให้ได้
UNODC ไม่ได้นิ่งดูดาย องค์กรดำเนินการสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับปัญหาระดับโลกนี้และเร่งรัดการดำเนินการเพื่อยุติการค้าเด็ก ผ่านการวิจัย การให้การสนับสนุนทางเทคนิคแก่รัฐต่างๆ และการประสานงานระหว่างหน่วยงาน
กลุ่มประสานงานระหว่างหน่วยงานต่อต้านการค้ามนุษย์ (ICAT) ซึ่งประกอบด้วยองค์การระหว่างประเทศสำคัญๆ ได้เรียกร้องให้มีการเร่งรัดดำเนินการป้องกันและยุติการค้าเด็กภายในปี 2025

“การแก้ไขปัญหาการค้าเด็กมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการบรรลุเสถียรภาพทางสังคมและเศรษฐกิจในวงกว้าง” โฆษกขององค์กรกล่าวสรุป พร้อมเรียกร้องความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการต่อสู้กับอาชญากรรมที่ทำลายอนาคตของเด็กๆ ทั่วโลก

ข้อมูลจาก: สำนักงานสหประชาชาติด้านยาเสพติดและอาชญากรรม (UNODC) รายงานการค้าเด็กระดับโลก กรกฎาคม 2024

อย่าลืม..กดติดตามช่อง FreeGen บน YouTube, Facebook, IG, X(Twitter) และ TikTok แชร์ต่อ เพื่อเผยแพร่ความรู้ที่อาจช่วยปกป้องคนที่คุณห่วงใยได้ และร่วมสร้างสังคมที่ปลอดภัยจากปัญหาการค้ามนุษย์

#FreeGen #การค้ามนุษย์ #ภัยออนไลน์ #ปกป้องตัวเอง #กฎหมายไทย #humantrafficking #stoptrafficking 


Share:



“NRM” กลไกส่งต่อระดับชาติ ยกระดับคุ้มครองเหยื่อค้ามนุษย์ตามมาตรฐานสากล

‘ประเทศไทยได้ก้าวไปอีกขั้นในการต่อต้านการค้ามนุษย์และการบังคับใช้แรงงาน ด้วยการประกาศใช้ “กลไกการส่งต่อระดับชาติ” (National Referral Mechanism – NRM) อย่างเป็นทางการ กลไกนี้เป็นกรอบความร่วมมือระหว่างภาคส่วนต่าง ๆ เพื่อช่วย เหลือ คุ้มครอง คัดกรอง คัดแยก และส่งต่อผู้เสียหายจากสถานการณ์การค้ามนุษย์และการบังคับใช้แรงงาน โดยได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์แห่งชาติเมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2565 NRM ได้รับการพัฒนาขึ้นบนพื้นฐานของกรอบการปฏิบัติงานเพื่อ

NRM กลไกเพื่อทุกคนที่ตกเป็นเหยื่อ กลไกการส่งต่อระดับชาติ (NRM) ใช้สำหรับ บุคคลที่มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าจะเป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ ผู้เสียหายจากการบังคับใช้แรงงานหรือบริการ ซึ่งรวมถึงผู้ใหญ่และเด็ก ทั้งคนไทยและคนต่างชาติ การทำงานของกลไกนี้ยึดมั่นในหลักการสำคัญเพื่อปกป้องผู้เสียหายอย่างรอบด้าน
⭕️ เคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ของผู้เสียหาย
⭕️ ผู้เสียหาย ไม่ถูกเลือกปฏิบัติ จากเจ้าหน้าที่
⭕️ การปฏิบัติงานมี ผู้เสียหายเป็นศูนย์กลาง และยึดประโยชน์สูงสุดของผู้เสียหายเป็นสำคัญ
⭕️ การคุ้มครองและช่วยเหลือ คำนึงถึงบาดแผลทางจิตใจ ของผู้เสียหาย และไม่กระทำซ้ำ
⭕️ ให้ความสำคัญกับ ความละเอียดอ่อนทางเพศ
⭕️ รักษาความลับ ของผู้เสียหาย

4 ขั้นตอนสำคัญในการช่วยเหลือและคุ้มครอง กลไก NRM ประกอบด้วย 4 ขั้นตอนหลักที่ทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบ สิ่งสำคัญคือ ในทุกขั้นตอน เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ต้องได้รับความยินยอมจากผู้เสียหายเสียก่อน และจัดให้ผู้เสียหายมีระยะเวลาฟื้นฟูไตร่ตรองเพื่อทบทวนเรื่องราว รวมถึงการมีส่วนร่วมในกระบวนการคัดแยกและคุ้มครอง
ขั้นตอนการรับแจ้ง: หน่วยงานรับแจ้งเหตุไม่ว่าจะเป็นภาครัฐหรือภาคประชาสังคม สามารถรับแจ้งเหตุที่น่าสงสัยว่าจะเป็นการค้ามนุษย์หรือการบังคับใช้แรงงานได้ หน่วยงานเหล่านี้มีหน้าที่รวบรวมข้อมูลเบื้องต้นและส่งต่อข้อมูลให้หน่วยงานด่านหน้าเพื่อดำเนินการคัดกรอง หรือพิจารณาคัดกรองเองหากเป็นหน่วยงานด่านหน้าอยู่แล้ว
ขั้นตอนการคัดกรอง: มีวัตถุประสงค์เพื่อสืบหาข้อมูลและตัวชี้วัดเบื้องต้นเกี่ยวกับสถานการณ์การค้ามนุษย์และการบังคับใช้แรงงาน เพื่อนำไปประกอบการพิจารณาสถานะของบุคคลที่ได้รับส่งต่อมา ในขั้นตอนนี้ ควรมีอย่างน้อย 1 หน่วยงานที่มีภารกิจเกี่ยวข้องเข้าร่วม เช่น เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองสำหรับกรณีผู้อพยพย้ายถิ่น หรือ สร.ช. สำหรับผู้ประสบเหตุทางทะเล หากหน่วยงานด่านหน้าเชื่อว่าบุคคลนั้นน่าจะเป็นผู้เสียหาย จะส่งต่อรายงานสถานการณ์เพื่อการคัดแยกและพิจารณาสถานะผู้เสียหายต่อไป
ขั้นตอนการคัดแยก: เป็นการคัดแยกและพิจารณาสถานะผู้เสียหายอย่างเป็นทางการ โดยหน่วยงานผู้มีหน้าที่ในการคัดแยกในทีมสหวิชาชีพ การพิจารณาขึ้นอยู่กับข้อมูลที่ได้รับจากการสัมภาษณ์และข้อมูลอื่น ๆ ที่ได้รับมาในช่วง ระยะเวลาฟื้นฟูไตร่ตรอง 15 วัน ซึ่งสามารถขยายออกไปได้เป็นรายกรณี กระบวนการนี้สามารถดำเนินการได้ทั้งในศูนย์บูรณาการการคัดแยกผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ (โดยเฉพาะกรณีชาวต่างชาติที่ไม่มีสิทธิ์อยู่ในประเทศ) หรือในสำนักงานของหน่วยงานผู้มีหน้าที่คัดแยก โดยมีกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) และกระทรวงแรงงาน (รง.) ปฏิบัติงานร่วมกัน
ขั้นตอนการคุ้มครอง: ขั้นตอนสุดท้ายนี้จะมุ่งเน้นไปที่การให้ความคุ้มครองแก่บุคคลที่ได้รับการพิจารณาคัดแยกแล้วว่าเป็นผู้เสียหาย กระทรวง พม. จะเป็นหน่วยงานหลัก ในการจัดให้มีความคุ้มครองที่เหมาะสมกับความต้องการและความยินยอมของผู้เสียหายแต่ละคน เช่น การจัดหาสถานคุ้มครอง การให้บริการบำบัดฟื้นฟูเยียวยา การให้ความช่วยเหลือทางกฎหมาย การส่งกลับ และการกลับคืนสู่สังคม บริการข้างต้นอยู่ภายใต้กรอบ ระยะเวลาฟื้นฟูไตร่ตรอง 30 วัน ซึ่งสามารถขยายระยะเวลาออกไปได้ตามความต้องการและความยินยอมของผู้เสียหาย ผู้เสียหายจะได้รับคำปรึกษาเพื่อช่วยให้พวกเขาสามารถตัดสินใจได้ว่าจะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมทางอาญาหรือไม่ หากผู้เสียหายไม่ประสงค์จะรับความช่วยเหลือ สถานคุ้มครองสวัสดิภาพผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ (สคม.) จะรายงานต่อกองต่อต้านการค้ามนุษย์เพื่อประสานส่งกลับภูมิลำเนา แต่หากผู้เสียหายประสงค์จะเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย สถานคุ้มครองจะประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดำเนินส่วนของการสืบสวนสอบสวนและให้ความคุ้มครองผู้เสียหาย โดยในกรณีที่ผู้เสียหายเป็นเด็ก กระบวนการต่าง ๆ จะเป็นไปตามหลักการในพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 และอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก

ตอกย้ำพันธกรณีสากลเพื่อการคุ้มครองที่ยั่งยืน กลไก NRM ถือเป็นการพัฒนาที่รัฐบาลไทยให้ความสำคัญอย่างยิ่ง โดยเป็นผลจากการทำงานร่วมมือร่วมใจกันระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และองค์กรระหว่างประเทศ กลไกนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อ สอดรับกับพันธกรณีที่ประเทศไทยจะต้องปฏิบัติตามพันธสัญญาต่าง ๆ ที่ได้ลงนามไว้กับองค์กรระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งองค์การสหประชาชาติ ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ รวมทั้งการบังคับใช้แรงงาน มีวัตถุประสงค์หลักในการมุ่งเน้นไปที่การให้ความคุ้มครองแก่ผู้เสียหายเป็นอันดับแรก สร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ และนำไปสู่ประสิทธิภาพในการดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด เพื่อให้ผู้เสียหายได้รับการคุ้มครองและมีการพัฒนาในการคุ้มครองช่วยเหลืออย่าง มั่นคงและยั่งยืน

อย่าลืม..กดติดตามช่อง FreeGen บน YouTube, Facebook, IG, X(Twitter) และ TikTok แชร์ต่อ เพื่อเผยแพร่ความรู้ที่อาจช่วยปกป้องคนที่คุณห่วงใยได้ และร่วมสร้างสังคมที่ปลอดภัยจากปัญหาการค้ามนุษย์

#FreeGen #การค้ามนุษย์ #ภัยออนไลน์ #ปกป้องตัวเอง #กฎหมายไทย #humantrafficking #stoptrafficking 

ดูน้อยลง

Share:



Social media & sharing icons powered by UltimatelySocial